พิธีพระราชทานปริญญาบัตร มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ประจำปีการศึกษา 2561-2562 วันแรก
วันนี้ (2 ธันวาคม 2562) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ไปยังอาคารเฉลิมพระเกียรติในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 มหาวิทยาลัยมหาสารคาม อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา จากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ประจำปีการศึกษา 2561 - 2562 เป็นวันแรก
ในการนี้ นายสราวุธ เบญจกุล นายกสภามหาวิทยาลัยมหาสารคาม กราบบังคมทูลสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ จากนั้น รองศาสตราจารย์ ดร.ประยุกต์ ศรีวิไล อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม กราบบังคมทูลเบิกพระสงฆ์ผู้สำเร็จการศึกษาเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร และพระสงฆ์ผู้ได้รับรางวัลพระธาตุนาดูนทองคำ คือ พระเทพสิทธาจารย์ (น้อย ญาณวุฑฺโฒ) ประเภทบุคคลดีเด่นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สาขาบำเพ็ญประโยชน์ และมีผู้ทรงคุณวุฒิเข้ารับพระราชทานปริญญากิตติมศักดิ์ จำนวน 2 คน ได้แก่ นายชวน หลีกภัย ปริญญานิติศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ และ ศาสตราจารย์ ดร.สายหยุด จำปาทอง ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการบริหารและพัฒนาการศึกษา
นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้ประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติบุคคลดีเด่นประจำปี ซึ่งถือเป็นบุคคลที่สร้างคุณงามความดี ทำคุณประโยชน์ให้แก่สังคมและประเทศชาติ สมควรได้รับพระราชทานรางวัลพระธาตุนาดูนทองคำ ได้แก่ นายทองใส ทับถนน ประเภทบุคคลดีเด่นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สาขาทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม
และมหาวิทยาลัยมหาสารคาม มีนโยบายส่งเสริมและเชิดชูเกียรตินักวิจัย ที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับ ในวงวิชาการหรือสังคมวิชาการทั่วไป ตลอดจนเพื่อเป็นการกระตุ้นและสร้างแรงจูงใจในการทำงานวิจัย และสมควรได้รับพระราชทานรางวัลเชิดชูเกียรติ ดังนี้
รางวัลนักวิจัยดีเด่น สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้แก่ รองศาสตราจารย์ ดร.พรรณวดี จุรีมาศ
รางวัลเชิดชูเกียรติพันธกิจสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยกับชุมชน (MSU Engagement Thailand) ได้แก่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุพรรณ ยั่งยืน
รางวัลเชิดชูเกียรตินักประดิษฐ์คิดค้นดีเด่น ได้แก่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อาทิตย์ ฉิ่งสูงเนิน
จากนั้นอธิการบดีกราบบังคมทูลเบิกผู้เข้ารับพระราชทานทุนภูมิพล ประจำปีการศึกษา 2562 จำนวน 33 คน พิธีพระราชทานปริญญาบัตร มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ในวันนี้เป็นวันแรก มีผู้เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร จำนวนทั้งสิ้น 2,345 คน ประกอบด้วย ระดับปริญญาเอก 80 คน ปริญญาโท 303 คน และปริญญาตรี 1,962 คน ภายหลังพิธีพระราชทานปริญญาบัตร สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราโชวาทแก่บัณฑิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม
********************************************************************************
พระราโชวาท
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๑-๒๕๖๒
ณ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม
วันจันทร์ที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๖๒
..............................................................
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ข้าพเจ้ามาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยมหาสารคามในวันนี้ ขอแสดงความชื่นชมต่อผู้ทรงคุณวุฒิและบัณฑิตทุกคน ที่ได้รับเกียรติและความสำเร็จ
ความรู้ที่บัณฑิตได้รับ จากการศึกษาในมหาวิทยาลัย กล่าวได้ประกอบกันขึ้นจาก ๓ ส่วน ส่วนหนึ่ง คือความรู้ที่ได้มาจากการถ่ายทอดโดยตรงของครูอาจารย์ผู้สอน ส่วนหนึ่ง คือความรู้ที่ได้มาจากการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม ไม่ว่าจะด้วยการอ่านตำรับตำรา การสืบค้นจากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ การติดตามข้อมูลข่าวสาร หรือการสังเกตศึกษาสิ่งรอบตัว อีกส่วนหนึ่ง คือ ความรู้ที่ได้มาจากการฝึกหัดปฏิบัติ ตลอดจนการแลกเปลี่ยนความรู้ความคิดกับผู้ที่ได้ปฏิบัติร่วมกัน ความรู้ทั้ง ๓ ส่วนนี้ เป็นสิ่งที่มีคุณค่ายิ่ง ที่ไม่มีใครสามารถแย่งชิงไปจากบัณฑิตได้ เพียงแต่ทุกคนจะต้องถือเป็นหน้าที่อย่างสำคัญ ที่จะต้องรักษาสิ่งที่มีอยู่ สร้างเสริมเพิ่มพูนให้มีมากขึ้น และนำไปใช้สร้างสรรค์ประโยชน์ให้เจริญงอกงาม หากบัณฑิตตั้งใจพยายามปฏิบัติให้ได้ดังนี้ ความรู้ที่แต่ละคนอุตส่าห์สร้างสมอบรมมา ก็จะไม่เสื่อมไป และไม่สูญเปล่ามีแต่จะหนักแน่นขึ้น กว้างขวางเพิ่มพูนขึ้น และก่อประโยชน์อันแท้จริงและยั่งยืน ทั้งแก่ตนเอง แก่ส่วนรวม และแก่ชาติบ้านเมือง
ในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขออวยพรให้บัณฑิตมีความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตและหน้าที่การงาน ทั้งขอให้ทุกท่านที่มาร่วมในพิธีนี้ มีความสุขสวัสดีโดยทั่วกัน
********************************************************************************
ภาพ : บุณฑริกา ภูผาหลวง/อภิราม ทามแก้ว
ข่าว : บุณฑริกา ภูผาหลวง